หัวใจสำคัญในการออกแบบพัฒนาเมืองคือความเข้าใจในศักยภาพของพื้นที่ ความต้องการของผู้มาใช้งาน และปัจจัยทั้งที่สามารถควบคุมได้และควบคุมไม่ได้ การวางผังจากบนสู่ล่าง (Top-Down Planning) เป็นการวางแผนที่ล้าสมัยเพราะไม่สามารถตอบสนองคนในยุคสมัยนี้ การผสานแนวคิดของมุมมองจากระดับล่างขึ้นบน (Bottom-Up) และบนสู่ล่างกลายเป็นนัยสำคัญหลักในการการออกแบบผังเมืองในสมัยปัจจุบัน โดยสามารถทำให้สำเร็จได้ด้วยการร่วมมือกัน (Collaboration) ของภาครัฐบาล ภาคเอกชน และคนในพื้นที่
NEW YOTHI (4.0)+ เป็นการตระเตรียมแผนงานการออกแบบเมืองเชิงนวัตกรรมในการเสริมสร้างคุณภาพชีวิต (people) ตอบรับระบบเศรษฐกิจ (Profit) เพื่อความยั่งยืน (Planet) ด้วยการสืบสานวิถีชุมชน (Culture) ที่เกิดจากความร่วมมือของทุกภาคส่วน ซึ่งเป็นเพียงขั้นตอนเริ่มต้นเพื่อรองรับการเจริญเติบโตในอนาคตทั้งที่ทำนายได้และทำนายไม่ได้
Our presentation at DISTRICT SUMMIT 2018 on 13 Feb 2018 Siam Square Bangkok, Thailand | ณ เคแบงก์สยามพิฆเนศ สยามสแควร์ วัน ชั้น 7
บทบาทของแนวความคิดของมุมมองจากระดับล่างขึ้นบนโดยการใส่ใจผู้คนในพื้นที่ ทำให้เกิดความสัมพันธ์ของวิถีชีวิตชุมชน เพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable development) โดยการให้ความสนใจกับสินทรัพย์ทางวัฒนธรรม (Cultural Assets) ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ 4 ในการพัฒนาระบบนิเวศน์ย่านนวัตกรรม โดยมีคุณสมบัติในการสืบสานวิถีชีวิตของชุมชน ส่งเสริมเอกลัษณ์ และรวมผู้คนในชุมชนเข้าไว้ด้วยกัน
Tachapol Tanaboonchai presented New Yothi 4.0+ to the public and competition juries on 13 Feb 2018.



NEW YOTHI (4.0)+
เป็นแผนงานที่เพื่อตอบสนองปัญหาในชุมชนเพื่อให้เกิดการพัฒนาสู่ย่านนวัตกรรมอย่างยั่งยืนเพื่อคนในชุมชน โดยแผนงานมีการจัดแบ่งออกเป็น 7 ขั้นตอน ซึ่งแต่ละระยะแผนงานมีการคำนึงถึงผลลัพธ์ของการเปลี่ยนแปลงทั้งเชิงพื้นที่และชุมชนเพื่อการพัฒนาในขั้นต่อไปดัง
ขั้นตอนที่ 0: การเตรียมการ (Preparation)
● – หน่วยงานรัฐบาลสละพื้นที่บางส่วนเพื่อใช้ในการพัฒนาเป็นพื่นที่สาธารณะ
ขั้นตอนที่ 1: ปรับเปลี่ยนโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure Rearrangement)
● – พื้นที่จอดรถถูกเตรียมรอบๆโครงการและเส้นทางเดินรถโดยสารระดับเมือง ด้วยการปรับตำแหน่งสถานี
ขั้นตอนที่ 2: พื้นที่สีเขียวเพื่อชุมชนและอาคารเพื่อกลุ่มบริษัทใหม่ (Green space and Start-up)
● – สร้างพื้นที่สีเขียวสาธารณะและสวนเพื่อการฟื้นฟูร่างกายและจิตใจ พัฒนาพื้นที่รองรับกลุ่มอุตสาหกรรมใหม่ (Start-Up) โดยใช้อาคารเดิมของหน่วยงานราชการโดยมีการปรับปรุง (Transformation)
ขั้นตอนที่ 3: ถนนคนเดินโยธี (Walking-Street Yothi)
● – ถนนโยธีแปรสภาพเป็นถนนสำหรับการเดิน (Car-free Area) และลดการใช้งานของกำแพงทึบเพิ่มพื้นที่ปฏิสัมพันธ์ทางสังคมสำหรับ ร้านอาหาร ร้านกาแฟ และร้านขายของชำ
ขั้นตอนที่ 4: เคหะสถานและพื้นที่ริมคลอง (Housing and Canalside Development)
● – การปรับปรุงพื้นที่ข้างเคียงศูนย์การแพทย์สู่โรงแรม (Boutique Hotel)
● การปรับปรุงชุมชนริมน้ำและใต้ทางด่วนรองรับการเจริญเติบโตของชุมชน
ขั้นตอนที่ 5: พัฒนาระบบนิเวศน์และคุณภาพชีวิตชุมชน (Leisure and Living Quality)
● – เพิ่มพื้นที่ส่วนกลางของย่านสำหรับการพักผ่อน ออกกำลังกาย และจัดกิจกรรมชุมชน
● เพิ่มเส้นทางจักรยานรอบพื้นที่ชั้นใน
ขั้นตอนที่ 6: เคหะสถานส่วนขยาย (Housing Expansion)
● – การพัฒนาระบบนิเวศน์ส่งผลให้ความต้องการใช้งานเพื่อการลงทุนและอยู่อาศัยเพิ่มมากขึ้น เมื่อจำนวนประชากรมากขึ้น ความต้องการพื้นที่พักอาศัยเพิ่มขึ้น พื้นที่เคหะสถานจึงถูกขยายรองรับการเจริญเติบโต
ขั้นตอนที่ 7: สินทรัพย์ทางวัฒนธรรม (Cultural and Community Value)
● – สืบสานคุณค่าทางวัฒนธรรม (Cultural Value) เตรียมพื้นที่สร้างคุณค่าทางสังคมเช่น ห้องสมุด ตลาด และศูนย์ชุมชน เพื่อการพัฒนาสู่ย่านนวัตกรรมด้วยความยั่งยืน

CREDITS
nam aliquam sem et tortor consequat id porta nibh venenatis cras sed felis eget velit aliquet sagittis